กู้เงินครั้งแรก ทำไง? กู้เงินด่วนโอนเข้าบัญชี วางแผนและเตรียมตัวอย่างไร

จากสถานการสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลาย ๆ คนน่าจะประสบปัญหาการเงินอยู่ไม่น้อย และคิดหาทางออก ถ้าใครยังไม่เคยกู้เงินเลย กู้เงินครั้งแรก ต้องทำยังไงในปี 2565 นี้ บทความนี้จะมาแนะนำวิธีกู้เงินครั้งแรก ต้องวางแผนตัดสินใจอะไร มีอะไรที่ต้องเตรียมตัวบ้างกัน

กู้เงินครั้งแรก สิ่งที่ต้องทำก่อนกู้

ปัจจุบันมีแหล่งกู้เงิน สินเชื่อมากมายกว่า 100 รูปแบบเลย ทั้งที่ถูกกฏหมายและผิดกฏหมาย ถ้าจะต้องกู้ครั้งแรกเนี่ยบางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าต้องกู้ที่ไหนดี ฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือดูจุดประสงค์ในการกู้เงินก่อน แล้วค่อยไปเลือกสินเชื่อ

1. ดูจุดประสงค์ในการกู้เงิน

  • ใช้จ่ายเมื่อขัดสนฉุกเฉิน: มีเหตุไม่คาดฝัน ต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ โดนทวงหนี้ค่าเช่าบ้าน สินเชื่อที่ต้องการคือสินเชื่อที่อนุมัติเร็ว เช่น แอปกู้เงิน นาโนไฟแนนซ์ (ดอกไม่เกิน 33%ต่อปี), พิโกไฟแนนซ์ (ดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ต่อปี)
  • ต้องการวงเงินไว้หมุนเพื่อให้อุ่นใจ: สินเชื่อส่วนบุคคล (ดอกไม่เกิน 25%ต่อปี)
  • ซื้อสินค้า ไม่มีบัตรเครดิต: สินเชื่อซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (ดอกไม่เกิน 25%ต่อปี)
  • ต้องการวงเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อบ้าน ที่ดิน รถ: สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (ดอกเบี้ย MRR)
  • ลงทุนในธุรกิจ: สินเชื่อเพื่อธุรกิจ

การเลือกแหล่งกู้เงินนั้นจะช่วยให้เรา มีโอกาสอนุมัติผ่านมากขึ้น และการพิจารณาเงินกู้ก็จะมาจากสิ่งต่อไปที่เราต้องพิจารณาก็คือ รายได้และอาชีพ การเงินที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

2. คำนวณรายได้ปัจจุบัน

ไม่ใช่ทุกคนที่อยากกู้เงิน แล้วจะกู้ได้เลย 100,000 ทางสถาบันการเงินเองก็จะต้องอยากรู้ว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ เขาจึงจะปล่อยกู้ให้ได้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสถาบันการเงินทุก ๆ เจ้าจะปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ที่กู้เงินครั้งแรก ประมาณ 30 – 40% ของรายได้ เพื่อไม่ให้คนกู้ต้องประสบปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว

รายได้ที่เริ่มสมัครขอกู้เงินถูกกฏหมายได้นั้น คือ 5,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป สำหรับสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ ที่กู้ได้ผ่านแอป ส่วนรายได้ที่กู้เงินได้ในเกือบทุก ๆ ประเภทคือ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และต้องมีงานประจำ

ทั้งนี้ ถ้ารายได้ต่อเดือนน้อย สิ่งที่ตามมาคือวงเงินที่กู้ได้ กู้เงินได้จริง แต่ดอกเบี้ยแพงกว่า ต้องหามาจ่ายเยอะกว่า เพราะทางสถาบันการเงินจะมองว่า เราไม่มีความมั่นคงทางการเงินนั่นเอง

3. เตรียมเอกสาร

ต่อมาคือการเตรียมเอกสาร ถามว่าในปี 2565 นี้ สิ่งที่ต้องเตรียมจริง ๆ สำคัญที่สุดคือ บัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน จะแอนดรอย หรือ iPhone ก็ได้ ส่วนเอกสารที่จำเป็นอื่น ๆ นั้น เราก็หาได้จากในแอปมือถือ หรือบางอย่างก็ต้องขอและใช้เฉพาะกับบางสินเชื่อเท่านั้น

สิ่งจำเป็น
ปี 2565 ใช้แค่นี้ก็เริ่มกู้เงินได้เลย

จำเป็นต้องมี

  • บัตรประชาชน
  • โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แอนดรอย
  • สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ขอในแอปธนาคารได้)

มีแค่ 3 อย่างนี้จริง ๆ ก็กู้เงินด่วนฉุกเฉินได้แล้ว

เอกสารเพิ่มเติม สำหรับบางสินเชื่อเท่านั้น

  • กู้เงิน สินเชื่อส่วนบุคคล ไม่มีคนค้ำประกัน: สลิปเงินเดือน, ทวิ50 , สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกของธนาคารเพื่อโอนเงินเข้าบัญชี
  • สินเชื่อค้ำประกัน: เล่มทะเบียนรถ โฉนดที่ดิน สำเนาทะเบียนบ้าน (ขึ้นอยู่กับประเภทที่ค้ำประกัน)
  • สินเชื่อเพื่อธุรกิจ: รูปถ่ายร้านค้า, ใบประกอบกิจการร้านค้า, สำเนาทะเบียนการค้า/พาณิชย์, ใบสั่งซื้อสินค้า, ใบแสดงการเสียภาษี

4. คำนวนวงเงินที่ต้องการ และศึกษาอัตราดอกเบี้ย

อันนี้สำคัญที่สุด เพราะการกู้เงินคือการยืมเงินคนอื่นมาใช้ก่อน และเราต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เขา ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนั้นก็จะคิดเป็นรายเดือน ทำให้เราผ่อนจ่ายได้ง่ายขึ้น เช่นยืมมา 10,000 บาท เราไม่ต้องจ่ายคืนทีเดียว 10,000 บาทเลย อาจจะทยอยผ่อนเดือนละ 500 บาท เราสามารถผ่อนได้กี่เดือนก็ตามแต่ที่ตกลงกัน

แต่ถ้ายิ่งจำนวนเดือนเยอะไปเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยก็จะทบไปเรื่อย ๆ ทำให้เงินต้นไม่หมด และเราก็ต้องจ่ายเงินคืนไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้นสักที อาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินอื่น ๆ ที่ตามมาได้อีก คือเราไม่รู้ว่าเหตุฉุกเฉินจะมีอีกซ้ำไหม ฉะนั้นก็อย่าเป็นหนี้ยาว ๆ เลย ปิดยอดไปก่อน แล้วถ้าเดือดร้อนค่อยมาขอกู้ใหม่ก็ได้

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ถูกกฏหมายนั้น สูงสุดไม่เกิน 36% ต่อปีหรือ 3% ต่อเดือนนะ ถ้าเกินนอกเหนือจากนี้คือเป็นเงินกู้ผิดกฏหมายแล้ว ระวังให้ดี ช่วงนี้มิจฉาชีพเยอะมาก

เลือกแหล่งกู้เงิน

เมื่อเราทราบจุดประสงค์ แล้วต่อมาคือเลือกแหล่งกู้เงิน

กู้เงินผ่านแอป นาโนไฟแนนซ์

วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินด่วนฉุกเฉินจริง ๆ เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ผ่านแอปนั้นสูงที่สุดในบรรดาเงินกู้ถูกกฏหมาย คือไม่เกิน 33% ต่อปี แต่ก็เป็นวิธีที่กู้ง่าย ได้เงินด่วน ใน 10 นาที 30 นาที หลังจากยื่นอนุมัติเสร็จ แล้วก็ถ้ากู้ไปหมุนฉุกเฉิน จ่ายปิดยอดก่อนเวลาก็ไม่เสียดอกเบี้ยถึง 33% เสียแค่ถึงเดือนที่ใช้ ไม่มีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ แอบแฝง ใครกู้เงินครั้งแรก ก็อาจเป็นทางเลือกพิจารณา สำหรับวงเงินไม่เยอะ

  • วงเงินที่ได้: 500 – 50,000 บาท
  • ดอกเบี้ย: 2.75% ต่อเดือน หรือ ไม่เกิน 33% ต่อปี

จะเลือกกู้เงินแอปไหนดี? ดูลิสต์แอปกู้เงินได้ที่นี่ และก็ตัวอย่างวิธีสมัครกู้เงินผ่านแอป แบบมีภาพประกอบ ที่นี่

ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง

เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิต แต่อยากได้ของมาใช้ก่อน เพราะจำเป็น เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า มือถือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง ก็ทำให้แทบจะซื้อก่อนทุกอย่างได้แล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเดียว เงินกู้ประเภทนี้ก็ของ่าย และอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 28% ต่อปี บางเจ้าก็วางมัดจำก่อนแล้วได้ของ บางเจ้าก็ได้ไปเลย อันนี้สมัครง่าย ๆ เช่นกัน

แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมดูให้ดี เพราะถ้าเราใช้วิธีนี้ในการกู้เงิน แปลว่าเราต้องจ่ายค่าสินค้าราคามากกว่าปกติ เมื่อรวมกับดอกเบี้ยนะ

  • วงเงินที่ได้ 5,000 – 100,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ย เฉลี่ยอยู่ที่ 15 – 28% ต่อปี

จะเลือกซื้อก่อนผ่อนทีหลังเจ้าไหนดี ดูลิสต์แอปซื้อก่อนผ่อนทีหลังที่นี่

สินเชื่อบุคคล ไม่ค้ำประกัน

สำหรับคนต้องการวงเงินหมุนไว้ใช้ยามอุ่นใจ และต้องการวงเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพราะสินเชื่อบุคคลจะให้วงเงินได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,500,000 บาทเลยทีเดียว แต่สินเชื่อบุคคล ส่วนใหญ่จะขอได้ต้องมีเงินเดือน 15,000 – 20,000 บาทขึ้นไป และมีงานประจำมั่นคง ส่วนข้อดีคืออัตราดอกเบี้ยถูกกว่านาโนไฟแนนซ์มาก และยิ่งรายได้เยอะเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็น้อยเท่านั้น

  • วงเงินที่ได้: 1.5 – 5 เท่าของเงินเดือน ไม่เกิน 1,500,000 บาท
  • ดอกเบี้ย: 1.25% ต่อเดือน เฉลี่ยไม่เกิน 18 – 25% ต่อปี

สินเชื่อบุคคล ค้ำประกัน

อันนี้เหมือนกันกับด้านบน แต่ต้องใช้สินทรัพย์ค้ำประกันแทน และอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าหน่อย วงเงินที่ได้จะขึ้นอยู่กับราคาประเมินสินทรัพย์ แทน ถามว่าสะดวกไหมวิธีนี้ คือวิธีนี้จะใช้เอกสารเยอะกว่าเพื่อน แต่ก็ถือได้ว่าถ้าไม่มีรายได้ประจำ ก็อาจจะต้องใช้วิธีนี้เป็นหลัก และของที่เอาไปค้ำประกัน ยังนำไปใช้งานได้ตามปกติ

ถ้ากลัวโดนยึดก็ต้องบอกว่าไม่ได้โดนยึดง่าย ๆ นะ คือถ้าเราผ่อนไม่ไหว ไกล่เกลี่ยไม่ไหวแล้วจริง ๆ นั่นถึงจะโดนฟ้องก่อน แล้วการจะโดนยึดหรือไม่นั้นก็อยู่ที่การเจรจาในชั้นศาล

  • วงเงินที่ได้: ขึ้นอยู่กับราคาประเมินสินทรัพย์
  • ดอกเบี้ย: เฉลี่ยไม่เกิน 24% ต่อปี

กู้ซื้อบ้าน ที่ดิน

สำหรับใครที่ต้องการซื้อบ้าน ที่ดิน อันนี้ต้องไปคุยกับธนาคาร ปกติแล้วถ้าเราไปซื้อคอนโด หรือบ้าน ส่วนใหญ่เซลล์ก็จะเข้ามาช่วยในการจัดการ

โดยถ้าใครไม่เคยกู้อะไรมาก่อน ไม่เคยเป็นหนี้อะไรเลย ส่วนใหญ่ทางธนาคารจะแนะนำให้กู้เงินครั้งแรก สินเชื่ออื่น ๆ ก่อน เพื่อสร้างเครดิตทางการเงิน ผ่อนจ่าย ส่งให้ตรง สัก 6 เดือน ถึงจะกลับมาขอกู้ซื้อบ้าน ที่ดินได้

  • วงเงินที่ได้: ขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของคุณ
  • ดอกเบี้ย: คิดแบบ MRR เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว

สินเชื่อเพื่อธุรกิจ

อันนี้ก็สำหรับคนที่มีธุรกิจ จะจดทะเบียน หรือไม่จดทะเบียนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจดทะเบียนขอสินเชื่อง่ายกว่ามาก ๆ โดยติดต่อได้ที่ธนาคารเช่นกัน สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ก็คือหลักฐานการเงิน รูปถ่ายร้านค้า, ใบประกอบกิจการร้านค้า, สำเนาทะเบียนการค้า/พาณิชย์, ใบสั่งซื้อสินค้า, ใบแสดงการเสียภาษี อะไรประมาณนี้ที่จะช่วยให้ขอสินเชื่อได้

  • วงเงินที่ได้: ขึ้นอยู่กับรายได้ และการประเมินจากสถาบันการเงิน
  • ดอกเบี้ย: คิดแบบ MRR เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว

เงินกู้นอกระบบ

ที่เขียนมานี่คือไม่ได้แนะนำนะ แต่แค่จะบอกว่าเงินกู้นอกระบบนั้นมีเยอะมาก ๆ ในตอนนี้ และก็มีทุกช่องทางยิ่งบนออนไลน์ แฝงอยู่ในทุกรูปแบบ ทั้งในไลน์, เฟซบุ๊ก, โฆษณา, ยูทูป, กูเกิ้ล มีหมดเลย เพราะที่ต้องยอมรับก็คือกู้เงินนอกระบบกู้ง่ายกว่าในระบบมาก ๆ ถึงแม้ตอนนี้เราจะมีนาโนไฟแนนซ์ที่กู้ง่าย แต่บางคนก็กู้ไม่ผ่านจริง ๆ เลยต้องไปใช้

แล้วที่สำคัญยุคนี้ มิจฉาชีพบางกลุ่มก็เอาชื่อแบรนด์ต่าง ๆ มาใช้หลอกลวงประชาชนให้ไปกู้อีก

ซึ่งถ้าจะป้องกันตัวเองจากเงินกู้นอกระบบต้องทำยังไง? เช็คง่าย ๆ ดังนี้

  • เงินกู้ในระบบ ไม่ต้องโอนเงินก่อน เพื่อให้กู้ได้ ไม่มีหัก 10% 15%
  • ดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อเดือน หรือ 36% ต่อเดือน
  • ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการแบบถูกกฏหมายได้ที่ เช็คทั้ง Bank, Non-Bank https://www.bot.or.th/Thai/FinancialInstitutions/WebsiteFI/pages/instlist.aspx
ตัวอย่างหน้าแสดงรายชื่อเงินด่วนถูกกฏหมาย

สมัครขอกู้เงิน

ขั้นตอนนี้ ถ้าเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว สมัครไม่ยากเลย ก็คือไปที่แอปของผู้ให้กู้, เว็บไซต์ทางการ, หรือไปที่สาขา เพื่อดำเนินการขอกู้ ถ้าใครกู้เงินออนไลน์แล้วไม่มั่นใจ ลองดูตัวอย่างวิธีสมัคร ขอกู้เงิน จากแอปเงินทันเด้อ อันนี้เราลองกู้ให้ดูแบบละเอียดมาก ๆ ทำตามได้เลย

รอผลอนุมัติ

ผลอนุมัติส่วนใหญ่จะแตกต่างกันตามประเภทการกู้ และจำนวนเงินที่กู้ ถ้ากู้เยอะก็รออนุมัตินาน อันนี้เป็นเวลาประเมินคร่าว ๆ

  • กู้เงินผ่านแอปถูกกฏหมาย รอ 5 – 30 นาที
  • สินเชื่อซื้อก่อนผ่อนทีหลัง รอ 5 – 30 นาที
  • สินเชื่อส่วนบุคคล(ทุกแบบ) รอ 1 – 7 วัน
  • กู้ซื้อบ้าน รอ 3 วันทำการขึ้นไป – 2 สัปดาห์
  • สินเชื่อเพื่อธุรกิจ รอ 3 วันทำการขึ้นไป – 2 สัปดาห์

เมื่อแจ้งผลอนุมัติแล้ว เราจะทราบว่าผ่านไม่ผ่าน บางเจ้าก็บอกว่าไม่ผ่านเพราะอะไร เราก็นำข้อมูลนั้นไปปรับปรุงเพื่อใช้ยื่นขอใหม่ ถ้าจำเป็นต้องใช้ ถ้ายื่นกับเจ้าเดิมรอประมาณ 15 วันขอยื่นใหม่ได้ ส่วนเจ้าอื่น ๆ ก็ยื่นได้เลยไม่ต้องรอ

รับเงินโอนเข้าบัญชี

สำหรับคนที่อนุมัติ ขั้นตอนต่อไปคือรับเงินโอนเข้าบัญชี ถ้าเป็นกู้ผ่านแอป อันนี้ง่ายเลย เพราะเชื่อมต่อกับแอปธนาคารที่รับเงินได้ ส่วนถ้าเป็นวิธีอื่น ก็ให้ข้อมูลเลขที่บัญชีที่จะรับเงินโอนไป

จ่ายเงินคืน

เราข้ามการนำเงินไปใช้เลยนะ เพราะแต่ละคนก็เอาไปใช้แตกต่างกัน แต่การจ่ายเงินคืนนั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มเมื่อครบ 30 วันหลังจากได้เงินโอนเข้าบัญชี สามารถจ่ายขั้นต่ำได้ แต่อย่าลืมว่าดอกเบี้ยนั้นขึ้นจากเงินที่โอนเข้าบัญชีเราทั้งหมด ฉะนั้นถ้าโปะได้มากกว่าขั้นต่ำ ก็จ่ายไปเลย จะได้ไม่ดอกเบี้ยค้างเยอะ

สำคัญที่สุดคือ กู้เงินคือเป็นหนี้นะ ฉะนั้นอย่าเป็นนาน ๆ ถ้ากู้มาแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปิดหนี้ให้หมด ถ้าจ่ายปิดไว ใช้ไม่กี่เดือน ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยไปถึงหลักสิบเปอร์เซ็นต่อปี ถ้าค้างนาน ๆ จะในระบบ นอกระบบ เมื่อเกิน 1 ปีขึ้นไป มันจะเริ่มกลายเป็นว่าเราผ่อนแต่ดอกแล้ว ไม่ได้ผ่อนเงินต้น

ส่งท้าย

เป็นไงกันบ้าง กับเรื่อง กู้เงินครั้งแรก จริง ๆ ไม่ยากเลยนะ ที่ยากคือหาเงินมาใช้คืนนี่แหละ ฉะนั้นเมื่อจะกู้เงินแล้ว ต้องเปลี่ยนวิธีคิดตัวเองใหม่ด้วย ว่า เราจะพลิกวิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ตั้งใจหาเงิน หารายได้ให้มากขึ้น ถ้ารายได้หลักไม่พอ ก็หารายได้เสริม เพื่อใช้หนี้ และในที่สุดเมื่อเราใช้หนี้หมด ถ้ารายได้หลัก รายได้เสริมเรายังคงอยู่ กระแสเงินสดเรามากขึ้น มีเงินมากขึ้น ก็ใช้จ่ายระมัดระวัง และมองไปยังการเติบโต เป้าหมายการเงินใหม่ ๆ ในชีวิต

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *