หลาย ๆ คนที่ใช้ SPayLater อยู่ อาจจะยังไม่เข้าใจวิธีการตัดรอบบิล และไม่รู้ว่าตัวเองต้องจ่ายเงินวันไหน บทความนี้มีคำตอบ
การตัดรอบบิลของ Shopee SPayLater นั้นจะมีทั้งหมด 3 รอบ วันที่ตัดสรุปยอดจะนับจากวันที่กดรับสินค้าในรอบบิล คือ ตั้งเเต่วันที่ 1 จนถึงวันสุดท้ายของเดือนก่อนหน้าวันตัดรอบ, ตั้งเเต่วันที่ 25 ของเดือนก่อนหน้านี้ จนถึงวันที่ 24 ของเดือนปัจจุบัน และ ตั้งเเต่วันที่ 15 ของเดือนก่อนหน้านี้ จนถึงวันที่ 14 ของเดือนปัจจุบัน โดยเมื่อถึงวันสรุปยอดบิลแล้ว ให้นับไปอีก 10 วันถึงจะเป็นวันครบกำหนดชำระจ่าย ซึ่งถ้าคุณจ่ายช้ากว่านั้นตั้งแต่ 1 วันขึ้นไปจะเริ่มนับดอกเบี้ยผิดนัดชำระทันที และวันถัดไปจะเริ่มนับค่าติดตามทวงถามหนี้
ฉะนั้นถ้าใช้ SPayLater แล้วจะดูว่าต้องจ่ายเงินเมื่อไหร่ ก็ให้ยึดวันที่คุณกดรับสินค้าเป็นหลัก แล้วดูว่าเข้าเกณฑ์ไหน วันที่ 1 – 30 , 15 – 14 หรือ 25 – 24 และนับเพิ่มไปอีก 10 วันก็จะครบรอบวันจ่ายพอดี
ถ้าไม่อยากปวดหัวนับเองก็สามารถเปิดไปที่แอป Shopee และดูหน้า My SPayLater เพื่อเช็คข้อมูลวันที่ต้องจ่ายได้ และเมื่อถึงวันจ่ายจริง ๆ ทาง Shopee จะส่งแจ้งเตือนผ่านแอปมาอยู่แล้ว
ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมที่ต้องระวังคือค่าติดตามทวงถามหนี้เพราะจะถูกเรียกเก็บเมื่อมียอดสินเชื่อค้างชำระเกิน 1,000 บาท โดยจะเรียกเก็บ 50 บาทในรอบบิลแรก และ 100 บาท ตั้งแต่รอบบิลที่ 2 เป็นต้นไป
อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ ถ้าไม่อยากปวดหัวคิดว่าต้องจ่ายวันไหน ก็คือทุกวันสิ้นเดือน หรือทุกวันเงินเดือนออกก็จ่ายเงินที่ค้างไว้เลยทีเดียวก็ได้ ปกติเวลาใช้ SPayLater ส่วนใหญ่ก็จะใช้กันไม่เยอะเกินวงเงินที่ได้ หรือไม่เกินเงินเดือนที่ได้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าใครใช้เกินก็ต้องระวังนิดนึงเพราะสินเชื่อนี้ไม่ได้ให้ใช้ฟรีซะทีเดียว มีค่าทวงถามและดอกเบี้ยด้วย
ช้อปเยอะแค่ไหนก็ฟิน เพราะวงเงินสูงสุดถึง 100,000.- ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเริ่มต้นเพียง 0% เท่านั้น
