อยากมีทองใส่ หรืออยากเก็บสะสมทอง ไม่จำเป็นต้องมีเงินหลักหมื่นถึงจะเริ่มมีทองได้ ทุกวันนี้เงินแค่หลักพันต้น ๆ 2,000 หรือ 3,000 ก็สามารถซื้อทองเป็นของตัวเองได้แล้ว จะต้องทำยังไงบ้าง ต้องซื้อแบบไหนมาดูกัน
มีเงินหลักพันก็เริ่มต้นซื้อทองได้แล้ว ไม่ต้องรอเก็บเงินก้อนใหญ่ ไม่ว่าจะซื้อทองรูปพรรณมาใส่ งบตั้งแต่ 2,000 บาทก็สามารถซื้อได้แล้ว หรือถ้าจะซื้อทองมาเก็งกำไรก็ไม่จำเป็นต้องรอรวบรวมเงินก้อนใหญ่ค่อยซื้อ เพราะเราสามารถออมทองแบบดิจิทัลผ่านแอปฯ ของร้านทองชั้นนำต่าง ๆ ซึ่งสามารถเริ่มทยอยออมได้ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันบาทได้
จะซื้อทองมาใส่เลือกทองที่เหมาะสมกับงบหลักพันยังไง จะซื้อทองมาเก็บเก็งกำไรในงบหลักพันมีวิธีการไหนบ้าง อ่านรายละเอียดด้านล่างได้เลย
สารบัญ
มีเงินหลักพันซื้อทองได้ยังไง ?
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับทองมีหลายเรื่อง ทั้งประเภทของทอง, น้ำหนัก, ขนาด, วิธีการซื้อ ซึ่งถ้าเราเข้าใจแล้วก็จะทำให้เราสามารถซื้อทองในเงินแค่หลักพันได้
ซื้อใส่ : เลือกน้ำหนักของทองให้เหมาะกับงบที่เรามี
อยากซื้อทองรูปพรรณมาใส่สามารถซื้อได้ด้วยเงินหลักพัน โดยเลือกจากน้ำหนักของทองเป็นหลัก ยกตัวเช่น ทองน้ำหนัก 1 กรัม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,021 บาท หรือทองครึ่งสลึง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,781 บาท และทอง 1 สลึงราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,563 บาท (ราคา ณ วันที่ 1 ส.ค. 65) ซึ่ง แหวนทอง, ต่างหูทอง, สร้อยข้อมือทอง, สร้อยคอทอง ในทุกวันนี้มีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กรัม ไปจนถึง 1 สลึง เลยมีงบหลักพันก็ซื้อมาใส่ได้สบาย ๆ
ซื้อเก็บ/เก็งกำไร : เลือกจากวิธีการซื้อทอง
อยากสะสมทอง ออมทอง ลงทุนเก็งกำไรให้เกิดผลงอกเงยในอนาคต ไม่ต้องรอเก็บเงินเป็นหมื่น เพราะเงินเริ่มต้นที่หลักพันก็สามารถลงทุนได้แล้ว ดีไม่ดีหลักร้อยก็เริ่มต้นได้แล้ว โดยวิธีการซื้อทองเพื่อเก็บหรือลงทุนมี ดังนี้
ซื้อทองจากร้าน
หรือก็คือซื้อทองมาเก็บไว้เองจริง ๆ ก็ไม่ต่างจากข้อ 1 (ซื้อใส่) มาก แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะซื้อมาใส่ประดับตกแต่งอะไร แนะนำว่าให้เลือกเป็นทองคำแท่งจะคุ้มกว่า ซึ่งทองแท่งไม่ใช่ว่าจะต้องซื้อแบบ 5 บาท 10 บาทถึงจะซื้อทองแท่งได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีทองแท่งไซส์เล็ก ๆ ที่เงินหลักพันสามารถซื้อได้เช่นกันหรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่าทองแผ่น ก็มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 1 กรัม ไปจนถึง 1 สลึงเช่นกัน (2,000 บาท – 8,000 บาท)
ทำไมทองคำแท่งคุ้มค่ากับการลุงทุนมากกว่าทองรูปพรรณก็เพราะว่า น้ำหนักของทองคำแท่งกับทองรูปพรรณ แม้จะนับเป็นทอง 1 สลึง เท่ากัน แต่น้ำหนักจริง ๆ ไม่เท่ากัน โดยทองคำแท่ง 1 สลึง จะมีน้ำหนักเท่ากับ 3.811 กรัม ส่วนทองรูปพรรณ 1 สลึง จะมีน้ำหนักเท่ากับ 3.79 กรัม ทำให้ทองคำทั้ง 2 แบบที่ความบริสุทธิ์เท่ากันมีราคาต่อ 1 สลึงไม่เท่ากันนั่นเอง
นอกจากนั้นทองรูปพรรณยังมีการเสียค่ากำเหน็จ (ค่าแรงค่าฝีมือในการทำลวดลาย) เพิ่มเข้ามาทำให้ต้นทุนเพิ่ม และยังสามารถสึกกร่อนได้ เมื่อนำไปขายคืนทองคำรูปพรรณจึงจะถูกหักค่าเสื่อมประมาณ 5% การซื้อเก็บ/ซื้อลงทุนในรูปแบบนี้แน่นอนว่าทองก็จะอยู่กับเรา สามารถจับต้องได้ควบคุมได้ แต่ข้อเสียก็คือมีความเสี่ยงในการเก็บรักษา เพราะเราจะต้องเก็บรักษาเอง
ออมทอง
การซื้อทองเก็งกำไรสะสมไว้ทีละเล็กทีละน้อย เพื่อผลตอบแทนในอนาคต ด้วยการออมทองแบบดิจิทัลกับร้านทองชั้นนำต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรอง สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ตั้งแต่เงินหลักร้อยหรือหลักพันก็ได้ เป็นการออมแบบดิจิทัลไปเรื่อย ๆ แบ่งเงินเก็บมาลงทุนเดือนละเล็ก ๆ น้อย ๆ จนเมื่อเก็บได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็สามารถถอนออกมาในรูปแบบของทองคำ หรือเงินสดก็ได้
และสามารถทำกำไรได้เหมือนทองคำทั่วไปเพราะช่วงไหนที่ราคาทองลดลง ถ้าเราใช้จำนวนเงินออมเท่าเดิมก็จะทำให้เราได้น้ำหนักทองที่มากขึ้น และส่วนการขายก็ไม่ต้องรอจนเก็บครบ 1 บาทก่อนถึงจะขายได้ เช่นถ้ามีช่วงที่ราคาทองขึ้นต้องการขายออกเพื่อทำกำไรก็สามารถขายได้ตลอด เป็นวิธีการที่การลงทุนที่ยืดหยุ่นมาก แอปออมทองที่แนะนำ ยกตัวอย่างเช่น
ฮั่วเซ่งฮง
ออมได้ 2 แบบคือ ออมเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจสามารถเลือกเวลาและราคาซื้อขายได้ ออมขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท หรือจะเป็น ออมแบบรายเดือนเป็นการตัดเงินผ่านบัญชีอัตโนมัติเดือนละครั้ง และสามารถปรับลด-เพิ่ม วงเงินการออมได้ตลอดตามต้องการ สามารถแลกทองออกมาได้เมื่อออมครบ 1 สลึง
MTS แม่ทองสุก
เป็นการออมทองในรูปแบบออนไลน์ด้วยนวัตกรรม Blockchain ที่มาช่วยควบคุมความปลอดภัย มั่นใจได้ว่าข้อมูลเราจะไม่รั่วไหลอย่างแน่นอน โดยสามารถสะสมด้วยน้ำหนักทองขั้นต่ำ 0.1 กรัม หรือเริ่มต้นในราคาเพียง 150 บาทเท่านั้น ออมได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และแลกทองได้เมื่อออมครบ 1 กรัม
เห็นไหม ไม่ใช่แค่แบงค์พันในมือจะสั่น แบงค์ร้อยก็สั่นได้ หากใครต้องการซื้อทอง ออมเก็บสะสมเพื่อเก็งกำไรเงิน หลักร้อย หลักพันก็เริ่มต้นซื้อได้แล้ว แต่อย่าลืมว่าจะต้องเป็นทองจากร้านทองที่น่าเชื่อถือ เป็นสมาชิกกับสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย และได้รับการตรวจสอบมาตรฐานความบริสุทธิ์จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ด้วยนะ
